จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระเครื่องจังหวัดศรีสะเกษ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
กรณีลูกค้าสั่งซื้อ ทางไลน์ ที่อยู่จัดส่งของลูกค้าต้องพิมพ์มานะครับ ถ้าหากลูกค้า ส่งที่อยู่ เป็นไฟล์รูปภาพมาให้ เราไม่รับออเดอร์ คำสั่งซื้อ รายการนั้น และเราจะโอนเงินคืน โดยถือว่าไม่มีนิติกรรมสัญญา ผูกพันตามกฎหมาย เกิดขึ้น ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกัน
พระรายการไหน ที่เเจ้งว่า ให้เช่าบูชาไปแล้ว เเละราคาปรับเป็นเลข 0 ไม่ต้องโอนเงินเข้ามานะครับ หากท่านโอนเงินเข้ามา มีค่าเสียเวลาในการโอนเงิน คืนท่าน ครั้งละ 50 บาท และหากท่านโอนเงินเข้ามา 50 บาท พอดี เราไม่โอนเงินคืนท่าน หากท่านต้องการให้เราโอนเงินคืนท่าน ท่านต้องโอนเงิน ค่าเสียเวลา ชำระเข้ามา 50 บาท ก่อน เราจึงจะดำเนินการโอนคืนเงินให้ท่าน ในกรณีท่านจะใช้สิทธิเรียกร้องในฐานลาภมิควรได้ ให้ศาลแขวงพิษณุโลก อยู่ในเขตอำนาจ
ขอให้ทุกท่าน เข้าใจตามนี้ ครับ
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
รหัสสินค้า ศรีสะเกษ 007 พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ห้วย พระราชญาณโสภณ จรัส เขมจารี วัดประชารังสรรค์ อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ รุ่น มหาเศรษฐี 89 หลังยันต์นวหรคุณ ด้านหน้าเป็นหัวใจมหาเศรษฐี พระชุดนี้ เจ้าของเดิมเช่าจากวัดมาหลายองค์ คัดสวยมาแต่เดิม ขออนุญาตใช้ภาพแทนนะครับ แบ่งให้เช่าบูชาองค์ละ 100 บาทหมดแล้วหมดเลย เห็นผมมีหลายองค์ แต่ก็อย่าลืมนะครับผมขายทั่วประเทศ แป๊บเดียวก็หมดครับ พระมีขนาดกว้าง 2.15 cm ความสูง 2.76 cm โดยประมาณ ประวัติ หลวงปู่ห้วย (พระราชญาณโสภณ)พระผู้มีวาจาสิทธิ์แห่งห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู วัดหลวงสุมังคลาราม เป็นวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของจ.ศรีสะเกษ ประชาชนชาวศรีสะเกษมีจิตศรัทธาต่อวัดมาก สังกัดคณะธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ใจกลางเมืองศรีสะเกษ ปัจจุบันมีพระราชญาณโสภณ (สป.วิ.) (จรัส เขมจารี) ป.ธ.๓ น.ธ.เอก เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวัดหลวงสุมังคลารามเป็นศูนย์รวมแห่งการศึกษาพระปริยัติธรรมในสมัยโบราณ เพราะยังมีหนังสืออยู่ในตู้พระธรรมลายรดน้ำสมัยโบราณอยู่เป็นอันมาก ทั้งที่เป็นหนังสือสารคดีและหนังสือที่ใช้สำหรับศึกษาทางพระพุทธศาสนาในสมัยโบราณ ทางวัดเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
หลวงปู่ห้วยเป็นพระเถระรูปหนึ่งของจ.ศรีสะเกษ ที่มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘ หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้นำพาชาวบ้านห้วยทับทันสร้างศาลาเรือนไม้ขึ้น ๑ หลัง ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระประธานประจำวัด เป็นที่กระทำกิจวัตรสวดมนต์เช้าเย็นของพระภิกษุสามเณร และยังใช้เป็นที่บำเพ็ญบุญกุศลต่างๆ ของชาวบ้านด้วย หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจอบรมสั่งสอนประชาชนและพระภิกษุสามเณรในปกครองด้วยความเมตตาเป็นที่ตั้ง ท่านจึงมีสัทธิวิหาริก และอันเตวาสิกมากมาย ประกอบกับท่านวางตนเรียบง่ายสมถะ ชอบความสันโดษตามแบบศากยบุตร จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของเหล่าประชาชนที่ได้พบเห็น ในฐานะที่เป็นเจ้าสำนักวัดประชารังสรรค์หลวงปู่ห้วยได้สร้างศรัทธาให้แก่หมู่ญาติโยม นำญาติโยมสร้างวัดประชารังสรรค์จากวัดเดิมที่เป็นเพียงสำนักสงฆ์มีกุฏิไม่กี่หลังให้เป็นวัดที่มีความสมบูรณ์ด้วยศาสนสมบัติที่สามารถใช้กิจทางพระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มที่ จึงนับได้ว่าเจ้าคุณจรัส เขมจารี เป็นพระเถระผู้สร้างประโยชน์ทั้งแก่ส่วนตนและสังคม ยังความเลื่อมใสศรัทธาให้แก่พุทธศาสนิกชนในเขตอำเภอห้วยทับทันเป็นอย่างมาก จนได้เรียกนามของเจ้าคุณว่า “หลวงพ่อห้วย” เพราะความที่เคารพรักศรัทธาท่านเจ้าคุณเปรียบเสมือนพ่อที่สร้างอำเภอห้วยทับทันมา สำหรับเหตุผลที่ชาวศรีสะเกษเรียกพระญาณวิเศษ (จรัส เขมจารี) ว่า “หลวงปู่ห้วย” เพราะท่านอยู่อำเภอห้วยทับทัน เดิมเป็นศิษย์สายหลวงปู่ศรีผีย่าน วัดหลวง หลวงปู่ศรีส่งท่านมาอยู่ที่ห้วยทับทันประมาณ พ.ศ.๒๔๙๗ มื่ออยู่นานขนาดนั้นจึงกลายเป็นหลวงปู่ห้วยไปโดยอัตโนมัติ ปัจจุบันท่านไปๆ มาๆ ระหว่าง ๒ วัด คือวัดหลวงในตัวเมืองศรีสะเกษกับวัดเดิมที่อำเภอห้วยทับทัน ส่วนใหญ่แล้วท่านชอบพำนักที่วัดเดิมในอำเภอห้วยทับทันมากกว่าวัดหลวง ด้วยที่นั่นสงบเงียบเหมาะกับจริตของท่านใครเดินทางผ่านอำเภอห้วยทับทันโดยเส้นทางสุรินทร์-ศรีสะเกษ สายเลียบทางรถไฟ สามารถแวะกราบท่านได้ง่าย "คุณเศษที่กล่าวขวัญกันคือท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดถึงอะไรมักเป็นจริงจึงเป็นเหตุให้คนทั้งหลายยำเกรง" “จรัส ศรีสุข” เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของหลวงปู่ห้วย เกิดวันจันทร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ที่บ้านเมืองจันทร์ ต.เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ โยมบิดาชื่อนายมา ศรีสุข โยมมารดาชื่อนางผุย ศรีสุข ท่านเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง ๗ คน วัยเด็กเจ้าคุณได้เข้าเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดบ้านเมืองจันทร์ จบชั้น ป.๓ เพราะมีสอนเท่านั้น จึงออกจากโรงเรียนมาช่วยงานโยมบิดามารดาช่วยดูแลน้องๆ ในฐานะพี่คนโต
พ.ศ.๒๔๘๗ อายุได้ ๑๗ ปี จึงเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดหลวงสุมังคลาราม เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจนกระทั่งสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.๒๔๙๑ เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี จึงได้รับการอุปสมบทขึ้นเป็นพระภิกษุในนามฉายาว่า “เขมจารี” โดยมีพระครูสิริสารคุณ (ศรี ฐิตธมฺโม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาธวัช วิมโล เป็นพระกรรมวาจารย์ พระมหาหน่วย ขันติโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พัทธสีมาวัดหลวงสุมังคลาราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๘ คณะศิษย์ร่วมงานวันเกิดครบรอบอายุ ๘๘ ปี ณ วัดประชารังสรรค์ ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสดังกล่าว นายเอนก ธัญนิพัทธ์ (เฮียเต็ก) นายสุธิโรจน์ อังคสกุลเกียรติ (เสี่ยหมา) และนายชัย หงส์ชัยมงคล ศิษย์ผู้ใกล้ชิดได้จัดสร้าง “เหรียญหลวงปู่ห้วย หันข้าง แซยิด ๘๘ ปี” ประกอบด้วย เนื้อทองคำ สร้าง ๓ เหรียญ ไม่มีหมายเลข เนื้อเงินสร้าง ๑๐๐ เหรียญ เนื้อทองทิพย์สร้าง ๑,๐๐๐ เหรียญ ทั้ง ๓ เนื้อ มีหมายเลขและโค้ด ส่วนเนื้อทองแดงสร้าง ๕,๐๐๐ เหรียญถวายให้ หลวงปู่ไว้แจกทั้งหมด พระนักเผยแผ่แห่ง “ศรีสะเกษ” หลวงพ่อห้วยได้จัดตั้งศูนย์เผยแผ่พุทธธรรมวัดหลวงสุมังคลารามขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งนี้ เมื่อพ.ศ.๒๕๓๔ ท่านได้นำพาคณะศิษยานุศิษย์ตั้งมูลนิธิเพื่อการพัฒนาส่งเสริมพระพุทธศาสนาขึ้นในนาม “มูลนิธิวัดประชารังสรรค์จรัสเขมจารีนุสรณ์” ซึ่งในวาระทำบุญคล้ายวันเกิดทุกปี ท่านได้นำดอกผลมาเป็นทุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณรที่สอบนักธรรมและเปรียญธรรมได้ และยังแบ่งส่วนหนึ่งเป็นทุนสนับสนุนนักเรียนเยาวชนที่ศึกษาธรรมะสอบธรรมศึกษาได้อีกด้วย แต่ละปีเฉลี่ย ๑๐๐,๐๐๐ บาท และรับภาระเป็นประธานมูลนิธิการศึกษาอำเภอห้วยทับทันอีกด้วย นอกจากจะตั้งมูลนิธิและมอบทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรเด็กและเยาวชน แล้ว ยังรับภาระเป็นองค์อุปถัมภ์ในการเปิดขยายห้องเรียนสาขาพุทธศาสตร์ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ห้องเรียนศรีสะเกษ เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ณ วัดหลวงสุมังคลาราม จากผลงานที่เป็นรูปธรรมแล้วด้านการบริหารพระภิกษุสามเณรในปกครอง ด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม งานช่วยเหลือสาธารณกุศลอื่นๆ หลวงพ่อได้ปฏิบัติให้การอุปถัมภ์และการสนับสนุนมาโดยตลอด คิดเป็นมูลค่าเงินประมาณ ๑๐ ล้าน ถึง ๑๓ ล้านของแต่ละปี จนได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์แต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอฝ่ายธรรมยุตปกครองพระภิกษุสามเณรในพื้นที่เขต อ.ห้วยทับทัน อ.อุทุมพรพิสัย อ.ปรางค์กู่ อ.ราษีไศล อ.เมืองจันทร์ อ.บึงบูรพ์ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ และอ.ศิลาลาด เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๙ พ.ศ.๒๕๕๐ เนื่องจากหลวงพ่อได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) จนมีอายุครบ ๘๐ ปีบริบูรณ์ แต่ยังมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ต่อไปอีก เพราะยังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดได้อีกทั้งยังเป็นที่เคารพศรัทธาของคณะสงฆ์และประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปอีก ๓ ปีเฉพาะกรณี ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๐ ตราตั้งที่ ๖/๒๕๕๐ แต่งตั้ง ณ วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๐ จากปฏิปทาที่สมถะและผลงานทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมอันหลากหลาย หลวงพ่อได้รับการยกย่องเชิดชูจากคณะสงฆ์และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สูงขึ้น โดยลำดับ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระราชทินนามโปรดเกล้าให้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ สายวิปัสสนา ที่พระญาณวิเศษ (สป.วิ.)
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |
โอนเงินได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 4032253429 นายอุดร เหลืองวิชชเจริญ พระรายการไหน ที่เเจ้งว่า ให้เช่าบูชาไปแล้ว เเละราคาปรับเป็นเลข 0 ไม่ต้องโอนเงินเข้ามานะครับ หากท่านโอนเงินเข้ามา มีค่าเสียเวลาในการโอนเงิน คืนท่าน ครั้งละ 50 บาท และหากท่านโอนเงินเข้ามา 50 บาท พอดี เราไม่โอนเงินคืนท่าน หากท่านต้องการให้เราโอนเงินคืนท่าน ท่านต้องโอนเงิน ค่าเสียเวลา ชำระเข้ามา 50 บาท ก่อน เราจึงจะดำเนินการโอนคืนเงินให้ท่าน ในกรณีท่านจะใช้สิทธิเรียกร้องในฐานลาภมิควรได้ ให้ศาลแขวงพิษณุโลก อยู่ในเขตอำนาจ
ขอให้ทุกท่าน เข้าใจตามนี้ ครับ