Antig LSD 2783  เหรียญสยดอ อุถิลาวันทา ศาสดาพยากรณ์ ปราชญ์และนักปฎิบัติธรรม U THILAWUNTA พระสายพม่า เขาถูกมองว่าเป็นพระอรหันต์ที่มีชีวิต เป็นอาจารย์ผู้รู้แจ้ง ปาฏิหาริย์มากมายมาจากเขา (ความเชื่อของชาวพม่า)

พระมีขนาดกว้าง   2.61    cm    ความสูง  3.87   cm

ชีวประวัติ : สยดอ อุถิลา วันทา

มาจากรัฐมอญของพม่า เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2455 เริ่มฝึกที่โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในปี พ.ศ. 2462 เมื่ออายุได้ 15 ปี ท่านรับคำปฏิญาณตนของพระภิกษุ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2475 ท่านได้รับการอุปสมบทเป็นภิกษุในคณะเถรวาทโดยสมบูรณ์ภายใต้การดูแลของ จ่อ สายยาว 1 เขาใช้เวลาสามเดือนแรกที่ไปพักผ่อนที่อาราม Htan-bin ใกล้หมู่บ้าน Wekalaung

ระหว่างปี 2476 ถึง 2481 เขาฝึกสมาธิภายใต้การดูแลของ Sayadaw U Narada แห่งอาราม Payagyi, Sayadaw U Ariya จากวัด Ahlei Taik และ Sayadaw U Pyin Nyein Da จากอาราม Aung Mye Bonzan ศายาดอทั้งสามท่านนี้เป็นปราชญ์และนักปฏิบัติที่มีชื่อเสียงทั้งหมด

U Thila Wunta ตั้งรกรากอยู่ระยะหนึ่งใกล้กับเจดีย์ Shve Dagon Pagoda ในกรุงย่างกุ้ง เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปของชาวพุทธว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บางแห่งหรือ "จุดพลังงาน" นั้นเอื้อต่อการทำสมาธิโดยเฉพาะ ประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าการทำสมาธิไม่เพียง แต่จะง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ความเข้าใจนั้นจะเกิดขึ้นเร็วขึ้นมากเมื่อฝึกฝนในสถานที่ดังกล่าว นอกจากนี้ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตจำนวนมากตลอดหลายศตวรรษได้ตระหนักถึงการตรัสรู้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์พิเศษเหล่านี้ รู้สึกว่ายังมีการสั่นสะเทือนที่หลงเหลือจากการมีอยู่ของพวกมัน เจดีย์ Shve Dagon ที่ย่างกุ้งเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานที่พิเศษที่สุดในโลก

ในปีพ.ศ. 2484 สงครามบังคับให้ อู ถิลา วันตา ออกจากย่างกุ้งไปยังรัฐมอญ ซึ่งเป็นที่ที่เขาอยู่จนกระทั่งสิ้นสุดการสู้รบ ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2489 เขากลับไปที่ย่างกุ้ง ซึ่งเขาพักอยู่ในกระท่อมหญ้าอีกครั้งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์ชเวดากองอันยิ่งใหญ่ ในเดือนพฤษภาคมปี 1947 เขาได้รับกระท่อมฝึกสมาธิขนาดเล็กอีกหลังหนึ่งโดยฆราวาสผู้เคร่งศาสนาที่อาศัยอยู่ใน Kapili Kwathi ทางฝั่งตะวันตกของ Shve Dagon ที่นั้น ทรงใช้อาถรรพ์เพื่อบำเพ็ญภาวนาร่วมกับพระภิกษุ ๘ รูป.

ในตอนท้ายของปี 1947 เขาได้เดินทางไปมัณฑะเลย์เพื่อไปปฏิบัติธรรมเพิ่มเติมที่เจดีย์มหาตมยามุนี ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงในเมืองมัณฑะเลย์

สายา อุถิลา วันทาขณะที่กำลังดิ้นรนกับการทำสมาธิที่เจดีย์มหาตมะมุนี อู ถิลา วันตาได้พบกับสาวกของโบดอ ออง มินกวง หลังมีชื่อเสียงในฐานะนักบุญชาวพม่าที่ตระหนักอย่างเต็มที่

Bodaw Aung Min Gaung เป็นผู้มีสมาธิที่ดีในประเพณีป่า Weizzer ของพม่า ในพม่า "ไวซ์เซอร์" เรียกว่าผู้มีปัญญา ผู้ทรงปรีชาญาณ (Skt: vidya ) หรือ "ผู้มีปรีชาญาณ" 2

Bodaw Aung Min Gaung เป็นปรมาจารย์ที่ไม่เพียงแต่รู้วิธีการสอนการทำสมาธิ เขาเป็นคนที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง ด้วยแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขาได้ยินเกี่ยวกับ Bodaw Aung Min Gaung U Thila Wunta ได้เดินทางไปยัง Popa เพื่อพบกับอาจารย์ด้วยตนเอง การประชุมครั้งนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความเข้าใจของเขา เพื่อมุ่งความสนใจไปที่การปฏิบัติอย่างเต็มที่ เขาได้ไปพักผ่อนตามลำพังในป่า เร่ร่อนจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อหาอาหาร แต่อย่างอื่นอยู่คนเดียวโดยสิ้นเชิง

เมื่อ อู ถิลา วันตา กลับมายังย่างกุ้ง ฆราวาสผู้เคร่งศาสนาชื่อ อู โพธิ์ เหนเวห์ ได้บริจาคที่ดินจำนวน 5 เอเคอร์ ด้วยความหวังว่า อู ถิลา วันตา จะฟื้นฟูเจดีย์โบราณที่ชำรุดเสียหายบนที่ดินดังกล่าว ในขั้นต้น อู ถิลา วุนตา คิดว่าสิ่งนี้จะทำให้เขาเสียสมาธิจากการฝึกสมาธิ แต่ปราชญ์ของเขา โบดอ ออง มิง กวง แนะนำให้เขาดำเนินการต่อและรับของขวัญ

U Pho Nweh พี่น้องของเขา และครอบครัวขยายทั้งหมด ได้สนับสนุนการบูรณะเจดีย์เก่า ทั้งด้วยเงินและแรงงาน งานเริ่มเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2492 นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการที่ดำเนินมาตลอดชีวิตของ อู่ ถิลา วันทา จวบจนปัจจุบัน ปัจจุบันรอบๆ เจดีย์กลางที่ได้รับการบูรณะใหม่ ปัจจุบันมีเจดีย์ขนาดเล็กกว่า 174 องค์ อาคารสำหรับพระภิกษุและฆราวาสก็ผุดขึ้นทั่วบริเวณ พื้นที่ห้าเอเคอร์ดั้งเดิมได้เปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาให้กลายเป็นอารามที่เจริญรุ่งเรือง ซึ่งรู้จักกันในชื่อวัด Dat Pon Zon Aung Min Gaung ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเพณีการทำสมาธิแบบ Weizzer

ในปี ค.ศ. 1952 U Tilla Wunta ได้ไปแสวงบุญที่พุทธคยาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ของพระพุทธศาสนา ที่ประเทศศรีลังกา ได้เสด็จเยือนวัดใหญ่แห่งอนุราธปุระ ที่มิฮินทาลี พระองค์ทรงนั่งสมาธิบนพื้นดินเดียวกันกับที่มเหนทรา (มหินดา) ราชโอรสของจักรพรรดิอโศกะบรรลุการตรัสรู้ เสด็จไปยังราชคฤหะ 'ยอดเขาอีแร้ง' ซึ่งมีตำนานเล่าว่าพระพุทธเจ้าศากยมุนีทรงสอนปรัชญาปารมิตาพระสูตร อันเป็นการปฏิบัติธรรมเหนือธรรมชาติ จากราชคฤหฺ เสด็จไปยังสารนาถ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องอริยสัจสี่และอริยมรรคมีแปดเป็นครั้งแรก หลังจากการจาริกแสวงบุญครั้งนั้น อู ถิลา วันตา กลับมาที่ย่างกุ้ง และใช้เวลาห้าปีถัดไปในการทำสมาธิที่โคนต้นไม้ในบริเวณวัด Dat Pon Zon

สายา อุถิลา วันทาหลังจากที่ อู ถิลา วันตา ตื่นขึ้น เขาได้เริ่มการเดินทางรอบโลกหลายครั้ง เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2498 พระสายาดอได้เสด็จเยือนประเทศไทย เนปาล และอินเดีย ในอินเดียเขาไปลุมพินี สารนาถ จัมมู สรัสตี กุสินารา ดาร์จีลิ่ง และอีกครั้งที่พุทธคยา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของทั้งหมด ที่พุทธคยาเขาทำสมาธิ 49 วันอย่างเข้มข้น จากนั้นเขาก็กลับมาทางประเทศไทยเพื่อแผ่นดินเกิดของเขา ระหว่างนั้นอารามเล็กๆ ของเขาก็เติบโตขึ้นเพื่อรองรับพระภิกษุยี่สิบรูป

ศาสดาพยากรณ์อุถิลาวันตาได้อุทิศชีวิตของตนเองเพื่อสอนวิธีการทำสมาธิอย่างลึกซึ้งซึ่งเขาได้เรียนรู้ภายใต้การชี้แนะด้วยความเห็นอกเห็นใจของโบดอ ออง มินกวง เขาได้ฝึกฝนกลุ่มผู้ชายที่เป็นแบบอย่างในวินัยของพระภิกษุสงฆ์และเขาได้สนับสนุนให้ฆราวาสทั้งชายและหญิงในศาสนาพุทธทำสมาธิ ชื่อเสียงของเขาในประเทศพม่า ที่ซึ่งเขาถูกมองว่าเป็นพระอรหันต์ที่มีชีวิต เป็นอาจารย์ผู้รู้แจ้งนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ ปาฏิหาริย์มากมายมาจากเขา ความดี ความเห็นอกเห็นใจ และปัญญาที่ไม่มีตัวตนซึ่งดูเหมือนจะเปล่งประกายออกมาจากการมีอยู่ของเขานั้นเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ทุกคนที่มีโอกาสได้พบกับคุณ ฐิลา วันตา ต่างก็รู้สึกว่าตนได้อยู่ต่อหน้านักบุญมนุษย์ผู้ไม่ธรรมดา

U Thila Wunta อาจารย์ของ Namgyal Rinpoche เป็นชายชราที่เคร่งขรึมและมีอำนาจ ภูมิปัญญาอันลึกซึ้งของเขาถูกจารึกไว้ทั่วใบหน้าที่แก่ชราของเขา และความรักที่เข้มข้นของเขาเป็นเหมือนพลังที่จับต้องได้

ที่มา http://www.dharmafellowship.org/biographies/contemporarymasters/sayadaw-u-thila-wunta.htm

https://www.youtube.com/watch?v=vVswPbIrcoE