Antig FB 12379 พระสมเด็จหลังเสือเผ่น หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร

Antig FB 12379  พระสมเด็จหลังเสือเผ่น หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร 

หลวงพ่อทองอยู่ อดีตเจ้าอาวาส วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร 

ท่านและหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ เป็นสหธรรมมิก  ที่เวลามีงานปลุกเสกวัตถุมงคลพิธีใหญ่ๆ ท่านจะมาพร้อมๆกัน

สมเด็จหลังเสือเผ่นนี้ ของท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมและทำไว้ด้วยตัวของท่านเองที่หลวงพ่อได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง, ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่งแต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก 

และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ซึ่งได้มาจากตระกูลของท่าน ดังนั้นในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อยและมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสีย ชื่อสำนักและครูบาอาจารย์ก็ว่าได้

และอีกท่านยังมีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง 5 ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)  พระชุดนี้นำเข้าพิธีวัดสุทัศน์ ปี พ.ศ. 2516 ด้วย  และถ้ามีใครต้องการหาพระสมเด็จวัดระฆัง หรือสมเด็จวัดบางขุนพรหม ขึ้นคอสักองค์ แล้วหาไม่ได้ เพราะสนนราคาในปัจจุบันสูงมาก ก็ขอให้นึกถึงพระสมเด็จของหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เพราะมีมวลสารครบถ้วนตามแบบฉบับพระสมเด็จ

ซึ่งปัจจุบันสนนราคายังไม่แพง แต่ก็นานๆ จะเห็นสักองค์

ย้อนรอยพระเกจิดัง  สมเด็จหลังเสือเผ่น   หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่ฯ

พุทธคุณเทียบ-สมเด็จวัดระฆังฯ (จบ)  เพจหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ประจำวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 สมเด็จหลังเสือเผ่น หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่ฯ

พุทธคุณเทียบ-สมเด็จวัดระฆังฯ

จะยกตัวอย่างพลังจิตของหลวงพ่อทองอยู่เรื่องหนึ่ง ในมูลเหตุที่ท่านได้รับฉายาจากศิษยานุศิษย์ทั้งหลายว่า “หลวงพ่อทองอยู่ ดับดาวเดือน” เพราะท่านเคยแสดงให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดดู โดยถามว่า เธอต้องการให้ดับดาวดวงไหน ให้ลองชี้มาแล้ว ท่านจะดับให้ดู ครั้นพอลูกศิษย์บอกว่า ต้องการดูดวงไหนดับแล้ว ท่านจะบริกรรมคาถาสักครู่ แล้วชี้ไปที่ดาวดวงนั้น ซึ่งแสงดาวก็จะหายวับดับไปในทันทีราวกับปาฏิหาริย์ แสดงว่า พลังจิตของท่านสูงส่งมากทีเดียว สามารถเพ่งกระแสจิต แล้วชี้ไปที่ดวงดาว จนแสงดาวที่กระพริบอยู่นั้น ดับวูบลงไปทันที  วิชาที่สุดยอดของท่านอีกอย่างคือ ลงกระหม่อมด้วยน้ำมันจันทน์หอม ใครได้ลงครบ 3 ครั้ง รับรองได้ว่า ไม่มีตายโหง และไม่อดไม่อยาก เป็นที่รักใคร่ของคนโดยทั่วไป ท่านเจริญเมตตา จนมีฝูงปลาสวายมาอยู่หน้าวัดเต็มไปหมดเลย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ 1 ใน 4 รูป ที่หลวงปู่โต๊ะนิมนต์มาในงานครบรอบคล้ายวันเกิดของท่านทุกปี อีกสามรูปที่เหลือ องค์แรกคือ หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงเทพมหานคร รูปที่สอง หลวงพ่อฮะ วัดดอนไก่ดี จังหวัดสุพรรณบุรี รูปที่สามเป็น พระจีน (ไม่ทราบชื่อ) สำหรับงานคล้ายวันเกิดหลวงปู่โต๊ะนั้น จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อทั้ง 4 รูปนี้เป็นประจำ มานั่งสี่มุม ส่วนหลวงปู่โต๊ะท่านจะนั่งที่หน้าพระประธานเป็นรูปที่ห้า  ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร โดยเรียนวิชายันต์ตรีนิสิงเหจาก หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสาคร มาด้วยกัน งานไหนมีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคล ที่นั่นจะมี หลวงปู่โต๊ะกับ หลวงพ่อทองอยู่ เคียงคู่กันเสมอ

ในการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ ของวัดประดู่ฉิมพลี ในขณะที่หลวงปู่โต๊ะชราภาพมากแล้ว ท่านปรารภกับลูกศิษย์ว่า “หากหมดบุญฉันแล้วให้ไปหาหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ท่านแทนฉันได้” และท่านยังสั่งลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า หากท่านอยู่ปลุกเสกรุ่นนี้ไม่ทัน ให้นำไปให้หลวงพ่อทองอยู่ปลุกเสกแทน พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ รุ่นนี้ จึงเป็นสุดท้ายของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งทางวัดประดู่ฉิมพลี ได้ประกอบพิธีเททองหล่อภายในวัด เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2524 โดยหลวงปู่โต๊ะเป็นประธานในพิธี และมีพระเกจิอาจารย์อีก 9 รูป ร่วมนั่งปรกในขณะเททอง

ในขณะที่พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ พุทโธ กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง หลวงปู่โต๊ะก็ได้มรณภาพเสียก่อน เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2524 (แสดงให้เห็นถึงอนาคตังสญาณของหลวงปู่โต๊ะ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมรณภาพในปีนั้น) เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อทองอยู่ได้ปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อน 1 ครั้ง ต่อมาเมื่อทางวัดได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ พร้อมกับรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงหลวงปู่โต๊ะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองหล่อขึ้น ทางวัดได้นำ พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ เข้าร่วมในพิธี โดยมี สมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน และหลวงพ่อทองอยู่นั่งปรกปลุกเสกด้วย

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ พระเกจิอาจารย์ 2 รูปนี้เคยร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2500 กว่าๆ สืบเนื่องจาก บริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยมี หลวงพ่อทองอยู่ เดินโปรยข้าวตอกดอกไม้ และหลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุหลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี   วัตถุมงคลที่สร้างในสมัยที่ “หลวงพ่อทองอยู่” ยังดำรงขันธ์ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่นๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกันอย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ถือว่าสร้างน้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เช่น เหรียญรุ่นแรกสร้างปี 2509 จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่างๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่ง-ชัยวัฒน์สุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน เป็นต้น เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นประเภท พระปิดตา, ล็อกเกต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) เป็นต้น

สำหรับพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ท่านสร้างมาก่อนปี 2500 คือ “พระสมเด็จ” อาทิ พระสมเด็จเนื้อผงขาว และ พระสมเด็จเนื้อผงใบลาน (สีดำ) มีหลายพิมพ์ แต่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็เห็นจะเป็น “สมเด็จหลังเสือเผ่น” ซึ่งสร้างมา 2-3 รุ่นหลายรูปแบบ (เสือเล็ก-เสือใหญ่) หลายพิมพ์ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างกว้างขวาง   พระสมเด็จเนื้อผงของหลวงพ่อทองอยู่ ท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมไว้ และทำไว้ด้วยตัวของท่านเอง ท่านมีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง 5 ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้อย่างเข้มขลัง โดยผสมน้ำมันจันทร์หอม ลงไปในเนื้อพระดังกล่าวด้วย ทำให้พระสมเด็จของท่านนั้น มีพุทธคุณโดดเด่นไปด้วยเมตตามหานิยม อุดมลาภผล แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี

สมเด็จทุกรุ่นของท่านนั้น มีมวลสารสุดยอดจริงๆ มีทั้งผงสมเด็จเก่าที่หลวงพ่อทองอยู่ได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง, ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่งแต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ซึ่งได้มาจากตระกูลของท่าน ดังนั้น ในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อย และมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสียชื่อสำนัก-ครูบาอาจารย์ก็ว่าได้

หากใครต้องการหาพระสมเด็จวัดระฆังฯ หรือ สมเด็จวัดบางขุนพรหม ขึ้นคอสักองค์ แล้วหาไม่ได้ เพราะสนนราคาในปัจจุบันสูงมาก ก็ขอให้นึกถึงพระสมเด็จของหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ซึ่งพุทธคุณไม่แพ้กัน ปัจจุบันยังพอหาได้ในราคาหลักพันต้นๆ ขึ้นอยู่กับสภาพความสวยขององค์พระ แต่ก็ไม่พบเห็นบ่อยนัก ขนาดที่ว่าวางแผงเมื่อไรไม่ทันข้ามวันมีคนอาราธนาไปแล้ว!!!